[นางปฏาจาราหนีไปกับคนรับใช้]
สาปิ ปาโตว กิลิฏฺฐํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา เกเส วิกฺกิริตฺวา กุณฺฑเกน สรีรํ มกฺขิตฺวา กุฏํ อาทาย ทาสีหิ สทฺธึ คจฺฉนฺตี วิย ฆรา นิกฺขมิตฺวา ตํ ฐานํ อคมาสิ. โส ตํ อาทาย ทูรํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ คาเม นิวาสํ กปฺเปตฺวา อรญฺเญ เขตฺตํ กสิตฺวา ทารุปณฺณาทีนิ อาหรติ. อิตรา กุเฏน อุทกํ อาหริตฺวา สหตฺถา โกฏฺฏนปจนาทีนิ กโรนฺตี อตฺตโน ปาปสฺส ผลํ อนุโภติ. อถสฺสา กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺฐาสิ.
ฝ่ายธิดาเศรษฐีนั้นนุ่งผ้าปอน ๆ สยายผม เอารำทาสรีระถือหม้อน้ำ ออกจากเรือนเหมือนเดินไปกับพวกทาสี ได้ไปยังที่นั้นแต่เช้าตรู่. ชายคนรับใช้นั้นพานางไปไกลแล้ว สำเร็จการอาศัยอยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง ไถนาในป่าแล้ว ได้นำฟืนและผักเป็นต้นมา, ธิดาเศรษฐีนอกนี้เอาหม้อน้ำมาแล้ว ทำกิจมีการตำข้าวและหุงต้มเป็นต้นด้วยมือตนเอง เสวยผลแห่งความชั่วของตน. ครั้งนั้น สัตว์เกิดในครรภ์ตั้งขึ้นในท้องของนางแล้ว.
สา ปริปุณฺณคพฺภา “อิธ เม โกจิ อุปการโก นตฺถิ มาตาปิตโร นาม ปุตฺเตสุ มุทุหทยา โหนฺติ เตสํ สนฺติกํ มํ เนหิ ตตฺถ เม คพฺภวุฏฺฐานํ ภวิสฺสตี”ติ สามิกํ ยาจิ. โส “กึ ภทฺเท กเถสิ มํ ทิสฺวา ตว มาตาปิตโร วิวิธา กมฺมการณา กเรยฺยุ น สกฺกา มยา ตตฺถ คนฺตุ”นฺติ ปฏิกฺขิปิ. สา ปุนปฺปุนํ ยาจิตฺวาปิ คมนํ อลภมานา ตสฺส อรญฺญํ คตกาเล ปฏิวิสฺสเก อามนฺเตตฺวา “สเจ โส อาคนฺตฺวา มํ อปสฺสนฺโต ‘กหํ คตา’ติ ปุจฺฉิสฺสติ มม อตฺตโน กุลฆรํ คตภาวํ อาจิกฺเขยฺยาถา”ติ วตฺวา เคหทฺวารํ ปิทหิตฺวา ปกฺกามิ.
นางมีครรภ์แก่แล้วจึงอ้อนวอนสามีว่า ใคร ๆ ผู้อุปการะของเราไม่มีในที่นี้, ธรรมดามารดาบิดา เป็นผู้มีใจอ่อนโยนในบุตรทั้งหลาย, ท่านจงนำฉันไปยังสำนักของท่านเถิด, ฉันจักคลอดบุตรในที่นั้น. สามีนั้นคัดค้านว่า นางผู้เจริญเจ้าพูดอะไร ? มารดาบิดาเจ้าเห็นฉันแล้ว พึงทำกรรมกรณ์มีอย่างต่าง ๆ ฉันไม่อาจไปในที่นั้นได้. นางแม้อ้อนวอนแล้ว ๆ เล่า ๆเมื่อไม่ได้ความยินยอม ในเวลาที่สามีไปป่า จึงเรียกคนผู้คุ้นเคยมาสั่งว่า ถ้าเขามาไม่เห็นจักถามว่า ฉันไปไหน ? พวกท่านพึงบอกความที่ฉันไปสู่เรือนแห่งตระกูลของตน ดังนี้แล้ว ก็ปิดประตูเรือนหลีกไป.
โสปิ อาคนฺตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ปฏิวิสฺสเก ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา “นิวตฺเตสฺสามิ น”นฺติ อนุพนฺธิตฺวา ตํ ทิสฺวา นานปฺปการํ ยาจิยมาโนปิ นิวตฺเตตุ นาสกฺขิ. อถสฺสา เอกสฺมึ ฐาเน กมฺมชวาตา จลึสุ. สา เอกํ คจฺฉนฺตรํ ปวิสิตฺวา “สามิ กมฺมชวาตา เม จลิตา”ติ วตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิตฺวา สมฺปริวตฺตมานา กิจฺเฉน ทารกํ วิชายิตฺวา “ยสฺสตฺถายาหํ กุลฆรํ คจฺเฉยฺยํ โส อตฺโถ นิปฺผนฺโน”ติ ปุนเทว เตน สทฺธึ เคหํ อาคนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสิ.
ฝ่ายสามีนั้นมาแล้ว ไม่เห็นภรรยานั้นจึงถามคนคุ้นเคย ฟังเรื่องนั้นแล้ว ก็ติดตามไปด้วยคิดว่า จักให้นางกลับ พบนางแล้วแม้จะอ้อนวอนมีประการต่าง ๆ ก็มิอาจให้นางกลับได้. ทีนั้น ลมกัมมัชวาตของนางปั่นป่วนแล้วในที่แห่งหนึ่ง. นาง เข้าไปในระหว่างพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง พูดว่า นาย ลมกัมมัชวาตของฉันปั่นป่วนแล้ว นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นดิน คลอดเด็กโดยยากแล้วคิดว่า เราพึงไปสู่เรือนแห่งตระกูลเพื่อประโยชน์ใด, ประโยชน์นั้นสำเร็จแล้ว จึงมาสู่เรือนกับด้วยสามี สำเร็จการอยู่กันอีกเทียว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น